การพัฒนาน้ำหมักชีวภาพเพื่อรักษาเชื้อราในโรงเห็ดฟาง กรณีศึกษา โรงเห็ดฟางบ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ | การพัฒนาน้ำหมักชีวภาพเพื่อรักษาเชื้อราในโรงเห็ดฟาง กรณีศึกษา โรงเห็ดฟางบ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี |
สถาบันอุดมศึกษาหลัก | |
หน่วยงานหลัก | คณะวิทยาการจัดการ |
หน่วยงานร่วม | สาขาวิชาการจัดการทั่วไป |
ชื่อชุมชน | โรงเห็ดฟางบ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี |
ชื่อผู้รับผิดชอบ | อาจารย์ศศิประภา พรหมทอง |
ที่อยู่ผู้รับผิดชอบ | 64 ถ.ทหาร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 |
ชื่อผู้ร่วมโครงการ/สาขา | นางสาวช่อผกา ธาตุไพบูลย์ นางสาวดารุณี สารมานิตย์ นางสาวกาญจนา ธาตุมณี รหัส นางสาวสายใหม ประชานันท์ รหัส นางสาวอรพรรณ ธรรมขันธ์ รหัส |
การติดต่อ | 0894221212 |
ปี พ.ศ. | 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2560 - 31 ธันวาคม 2560 |
งบประมาณ | 0.00 บาท |
พื้นที่ดำเนินงาน
จังหวัด | อำเภอ | ตำบล | ลักษณะพื้นที่ | |
---|---|---|---|---|
อุดรธานี | เมืองอุดรธานี | โนนสูง | place directions |
รายละเอียดชุมชน
ข้อมูลพื้นฐาน
529 หมู่ 4 ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี 41330 โรงเห็ดฟางบ้านข้าวสารเริ่มก่อตั้งโรงเห็ดฟาง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2559 และเริ่มเพาะเห็ดฟางวันที่ 20 ตุลาคม 2559 เป็นการเพาะเห็ดฟางแบบโรงเรือนโดยมี นายสมบูรณ์ พลเมืองนิตย์ เป็นผู้ริเริ่มกิจการ ซึ่งเดิมทีมีอาชีพรับเหมาไฟฟ้าและมีโอกาสได้เดินทางไปทำงานเกษตรที่ประเทศอิสราเอลพอครบสัญญาจ้างได้นำความรู้ที่ได้จากการทำเกษตรที่อิสราเอลมาต่อยอดเป็นอาชีพปลูกผักขายที่บ้าน แต่สู้กับต้นทุนสารเคมีไม่ไหว ประจวบเหมาะกับเวลานั้นมีโครงการการฟื้นฟูจากจังหวัดออกมาช่วยแนะนำในการประกอบอาชีพ และมีเงินทุนสนับสนุนในเรื่องของการเกษตร นายสมบูรณ์จึงเริ่มมองหาอาชีพซึ่งก็คือการเพาะเห็ดฟาง ซึ่งในตำบลโนนสูงยังไม่มีคนทำราคาเห็ดฟางก็ดีขายได้ตลอด ตลาดกว้างขายง่ายกว่าเห็ดนางฟ้าซึ่งตอนนี้ล้นตลาดบางที่ก็ได้นำมาแปรรูป ได้ทำการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเห็ดฟางอยู่นานพอสมควรกว่าจะได้เป็นโรงเห็ดฟางอย่างในปัจจุบันนี้ เหตุผลที่เพาะเห็ดฟางในโรงเรือน คือ1. การทำโรงเรือน สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
2. ดูแลง่าย เก็บผลผลิตได้ง่าย
3. ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่าการทำแบบกองเตี้ย
ข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
- วัตถุดิบที่ใช้ในการเพาะเห็ดฟาง คือ วัสดุที่เหลือใช้จากเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เช่น ขี้มัน ขี้ฝ้าย ไส้นุ่น ผักตบชวา เป็นต้น- มีต้นทุนต่ำในการทำโรงเห็ดฟาง เช่น ใช้ไม้ไผ่ ไม้ยูคา ที่หาได้จากท้องถิ่น
- สามารถเพาะได้ทุกฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤดูหนาวหรือฤดูฝน
- สามารถเพาะเห็ดได้จำนวนมากในพื้นที่จำกัด กล่าวคือ ภายใน 1 เดือน จะเพาะเห็ดได้ 2 ครั้ง
ข้อมูลประเด็นปัญหา
- โรงเห็ดฟางทำจากไม้ไผ่ ไม้ยูคา และผ้าใบ อาจมีระยะเวลาการใช้งานที่สั้น ต้องมีการซ่อมแซมและเปลี่ยนบ่อยๆ ไม่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เช่น พายุ ฝนตก หรือตากแดดนานๆ- โรงเห็ดฟางไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ได้ เช่น ความชื้น ความร้อนจากสภาพอากาศ ซึ่งทำให้เกิดเชื้อราในโรงเห็ดฟางได้
- การดูแลรักษาโรงเห็ดมีความยุ่งยาก เช่น เวลารดน้ำหรือมีฝนตก จะทำให้พื้นเปียกแฉะ เป็นโคลนตม
- การถ่ายเทหรือระบายอากาศไม่ค่อยดีนัก เพราะมุงด้วยผ้าใบถ้าแดดร้อนมากก็จะกักเก็บความร้อนไว้มาก ถ้าฝนตกก็จะกักเก็บความชื้นไว้มากยากต่อการระบายออก
ข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
ศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพที่มีต้นทุนต่ำ และมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยรักษาโรคเชื้อราในโรงเห็ดประเด็นปัญหาหลัก
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
องค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน
1.1 สายพันธ์เห็ดฟาง
1.2 ลักษณะของเห็ดฟาง
1.3 ระยะการเจริญของเห็ดฟาง
1.4 ประโยชน์ของเห็ดฟาง
1.55 การเพาะเห็ดฟาง
2. แนวคิด ทฤษฎีการทำน้ำหมักชีวภาพ
3. ทฤษฎีการวิเคราะห์ SWOT
รายละเอียดโครงการ/หลักการและเหตุผล
กรณีศึกษาโรงเห็ดฟาง บ้านข้าวสาร ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเพิ่งเปิดกิจการเพาะเห็ดฟางขายได้ 10 เดือนก็ต้องประสบปัญหาในเรื่องของเชื้อราที่เกิดขึ้นกับเห็ดฟาง ซึ่งสาเหตุในการเกิดเชื้อรานั้นก็มาจากอุณหภูมิและความชื้น ถ้าร้อนเกินไปก็จะเกิดราขาว เย็นเกินไปก็จะเกิดรารากไม้ ราเม็ดผักกาด เข้ามาปะปนหรือทำลายเส้นใยเห็ด ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่เร่งจัดการก็จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตได้ และราพวกนี้จะส่งผลให้เห็ดฟางไม่ได้คุณภาพตรงตามที่ตลาดต้องการ เช่น เห็ดฟางฝ่อ เห็ดฟางมีผิวดำ ผิวเห็ดอ่อน เห็ดไม่ออกดอก หรือเห็ดมีน้ำหนักเบา ขายได้ราคาต่ำอาจทำให้กิจการขาดทุนได้ จากปัญหาที่โรงเห็ดเผชิญตอนนี้ ได้ก่อให้เกิดแนวคิดที่อยากจะศึกษาปัญหา สาเหตุ หรือปัจจัยในการทำให้เกิดเชื้อราเพื่อที่จะได้นำความรู้ที่ได้มาเป็นแนวทางประกอบในการพัฒนาน้ำหมักชีวภาพเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ เป็นการลดต้นทุนในการใช้สารเคมีและมีความปลอดภัย และการจัดทำโครงงานในครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายอื่นที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ที่สนใจจะแก้ไขปัญหาด้วยน้ำหมักชีวภาพนำไปพัฒนาต่อยอดให้กับกิจการให้ประสบความสำเร็จในอนาคตได้
ดังนั้นคณะผู้จัดทำโครงงานได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้ศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทำน้ำหมักชีวภาพที่มีต้นทุนต่ำ และมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยรักษาโรคเชื้อราในโรงเห็ด จากการศึกษาหาข้อมูลจากกรมพัฒนาที่ดินจังหวัดอุดรธานีและสอบถามจากผู้ประกอบการรายอื่นรวมทั้งค้นคว้าในอินเทอร์เน็ตพบว่ามีน้ำหมักชีวภาพ 3 สูตรที่คณะผู้จัดทำโครงการสนใจเลือกมาทดลองใช้กับปัญหานี้ ได้แก่ 1.สูตรฮอร์โมนตีนเห็ด 2.สูตรน้ำหมักหอยเชอรี่ 3.สูตรน้ำหมักเหล้าขาว ที่สามารถนำมาทดลองปรับใช้กับการรักษาเชื้อราที่เกิดกับเห็ดได้ดี ปลอดภัย และน่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
คำสำคัญเพื่อการค้นหา
- การพัฒนาน้ำหมักชีวภาพเพื่อรักษาเชื้อราในโรงเห็ดฟาง
ประเมินคุณค่าโครงการ
คุณค่าที่เกิดขึ้น | ผลที่เกิดขึ้น | ||
---|---|---|---|
1 | เกิดความรู้ หรือ นวัตกรรมชุมชน | find_in_page | |
2 | เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เอื้อต่อสุขภาพ | ||
3 | การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ (กายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ) | ||
4 | การพัฒนานโยบายสาธารณะที่เอื้อต่อสุขภาวะ | ||
5 | เกิดกระบวนการชุมชน | ||
6 | มิติสุขภาวะปัญญา / สุขภาวะทางจิตวิญญาณ |