แบบเสนอโครงการ
โครงการ อาสาประชารัฐ “ยกระดับรายได้เกษตรกรสวนยางด้วยเกษตรผสมผสาน”
1. ชื่อโครงการ
2. พื้นที่ดำเนินงาน
3. รายละเอียดชุมชน
ชาวบ้านในเขตตำบลทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ทำสวนยางพารา แต่เนื่องจากสถานการณ์การตกต่ำของราคายางพารา ซึ่งพบว่าในปี 2554 ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 132.43 บาท/กิโลกรัม และในปี 2558 ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 53.44 บาท/กิโลกรัม (สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร) ส่งผลให้รายได้ของเกษตรลดลงประมาณ 60% ส่งผลต่อดำรงชีวิตอันเนื่องมาจากรายได้ลดลง แต่รายจ่ายของครอบครัวไม่ได้ลดลงไปด้วยจากสภาพการณ์ดังกล่าว เกษตรกรจึงได้มีการปรับตัวเพื่อหารายได้เสริม นอกจากรายได้หลักที่มาจากการทำสวนยางพารา
ระบบเกษตรผสมผสาน (Integrated Farming System) เป็นระบบการเกษตรที่มีการเพาะปลูกพืชหรือการเลี้ยงสัตว์ต่างๆชนิดอยู่ในพื้นที่เดียวกันภายใต้การเกื้อกูล ประโยชน์ต่อกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาศัยหลักการอยู่รวมกันระหว่างพืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อมการอยู่รวมกันอาจจะอยู่ในรูปความสัมพันธ์ระหว่างพืชกับพืชพืชกับสัตว์ หรือสัตว์กับสัตว์ก็ได้โดยให้ความสำคัญต่อกิจกรรม แต่ละชนิดอย่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม มีการใช้แรงงาน เงินทุน ที่ดิน ปัจจัย การผลิตและทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรู้จักนำวัสดุเหลือใช้จากการผลิตชนิดหนึ่งมาหมุน เวียนใช้ประโยชน์กับการผลิตอีกชนิดหนึ่งกับการผลิตอีกชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดภายในไร่นาแบบครบวงจร
จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า การปรับรูปแบการทำเกษตรกรรมในรูปแบบการผลิตเชิงเดี่ยว มาเป็นเกษตรผสมผสานจะช่วยให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถลดความผันผวนทางด้านราคา คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ตระหนักถึงความสำคัญของการมีบทบาทสนับสนุนด้านวิชาการและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานและองค์กรท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยกระบวนการวิจัยและพัฒนาความมั่นคงของประเทศจากฐานรากให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้กำหนดให้มีการจัดทำ “โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร โดยใช้เกษตรผสมผสานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง” ขึ้น โดยการคัดเลือกพื้นที่ ในเขต อ.คลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อลดปัญหาอันเนื่องมาจากราคายางตกต่ำ โดยโครงการนี้ กลุ่มนักศึกษา และอาจารย์ของคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ร่วมกับชุมชน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำเกษตรเชิงเดี่ยว (ยางพารา) มาเป็นการรูปแบบเกษตรผสมผสาน โดยใช้การจัดการเรียนการสอนบูรณาการร่วมกับการบริการวิชาการและการวิจัย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ไขปัญหา อันซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาได้ฝึกประสบการณ์การทำงานและพัฒนาทักษะวิชาชีพ โดยใช้ชุมชนเป็นห้องปฏิบัติการซึ่งเป็นการแก้ปัญหาตรงตามความต้องการของชุมชน
4. ประเด็นปัญหาหลัก
5. ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
6. องค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน
7. วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาด | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อพัฒนาระบบการเรียนการสอน ให้บัณฑิตสามารถเรียนรู้จากปัญหาจริงในชุมชน นักศึกษาคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาของชุมชน ตลอดจนให้ความช่วยเหลือในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน จำนวน 15 คน |
15.00 | 15.00 |
2 | เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ เกษตรกร ในพื้นที่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา จำนวน 40 คน |
40.00 | 40.00 |
8. กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) |
---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกเพิ่มเติม | |
นักศึกษาคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขล | 15 |
เกษตรกร ในพื้นที่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา | 40 |
9. ระยะเวลา
10. วิธีดำเนินงาน
กิจกรรมที่ 1 การบรรยาย สาธิต ผู้ประสบความสำเร็จในการทำเกษตรผสมผสาน
ชื่อกิจกรรม
การบรรยาย สาธิต ผู้ประสบความสำเร็จในการทำเกษตรผสมผสานวัตถุประสงค์
รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมต้นทาง- การบรรยาย สาธิต ศึกษาดูงาน ผู้ประสบความสำเร็จในการทำเกษตรผสมผสาน ให้แก่กลุ่มเกษตรกรและประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
กิจกรรมกลางทาง
- การปลูกพืชร่วมยาง
- การเลี้ยงสัตว์ร่วมยาง
กิจกรรมปลายทาง
- การจัดจำหน่ายผลผลิต
ระยะเวลาดำเนินงาน
1 พฤศจิกายน 2562 ถึง 31 ตุลาคม 2563ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)
- จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 40 คน- ความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาการอบรม ร้อยละ 70
- จำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ร้อยละ 70
- เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15
ทรัพยากรอื่น ๆ
ภาคีร่วมสนับสนุน
รายละเอียดงบประมาณ
ประเภท | จำนวน | บาท | ครั้ง | รวมเงิน |
---|---|---|---|---|
ค่าตอบแทนวิทยากร ค่าสมนาคุณวิทยากร จำนวน 2 คน ๆ ละ 6 ชั่วโมง ๆ ละ 600 บาท จำนวน 6 ครั้ง = 43200 บาท |
2 คน | 3,600 | 6 | 43,200 |
ค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม สำหรับผู้เข้าอบรม วิทยากร และผู้ช่วยวิทยากร จำนวน 40 คน ๆ ละ 2 มื้อ ๆ ละ 25 บาท จำนวน 6 ครั้ง = 12000 บาท |
40 คน | 50 | 6 | 12,000 |
ค่าอาหาร ค่าอาหารกลางวัน สำหรับผู้เข้าอบรม วิทยากร และผู้ช่วยวิทยากร จำนวน 40 คน ๆ ละ 1 มื้อ ๆ ละ 75 บาท* จำนวน 6 ครั้ง = 18000 บาท |
40 คน | 75 | 6 | 18,000 |
ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง (กรณีรถราชการไม่สามารถให้บริการได้ ขอเบิกเป็นค่าเช่าเหมารถแทน จำนวน 1 คัน/วันๆ ละ 2,800 บาท*จำนวน 30วัน = 84000 บาท |
1 ครั้ง | 2,800 | 30 | 84,000 |
อื่น ๆ ค่าเบี้ยเลี้ยงลงพื้นที่ ของนักศึกษา และอาจารย์ จำนวน 15 คน ๆ ละ 240 บาท จำนวน 20 วัน = 72000 บาท |
15 คน | 240 | 20 | 72,000 |
ค่าวัสดุในการฝึกอบรมอาชีพ/รายได้ วัสดุเกษตร เช่น ปุ๋ย ถุงเพาะ วัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์ ฯลฯ 150,000 บาท วัสดุงานบ้านงานครัว เช่น เครื่องครัว ฯลฯ 10,000 บาท วัสดุวิทยาศาสตร์ 20,000 บาท วัสดุก่อสร้าง 80,000 บาท วัสดุบรรจุภัณฑ์ เช่น ถุงพลาสติก ฯลฯ 2,000 บาท |
1 ครั้ง | 262,000 | 1 | 262,000 |
รวมค่าใช้จ่าย | 491,200 |
รวมงบประมาณทุกกิจกรรมของแผนการดำเนินงาน จำนวน 491,200.00 บาท
ค่าตอบแทน | ค่าใช้สอย | ค่าวัสดุ | อื่น ๆ | รวมเงิน | |
---|---|---|---|---|---|
ค่าใช้จ่าย (บาท) | 43,200.00 | 114,000.00 | 262,000.00 | 72,000.00 | 491,200.00 |
เปอร์เซ็นต์ (%) | 8.79% | 23.21% | 53.34% | 14.66% | 100.00% |
11. งบประมาณ
12. การติดตามประเมินผล
ต่อชุมชน | ต่อนักศึกษา | |
---|---|---|
ผลผลิต (Output) | จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 40 คน | นักศึกษาเข้าร่วมโครงการ 15 คน |
ผลลัพธ์ (Outcome) | เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากฐานเดิมร้อยละ 10 | นักศึกสามารถนำความรู้ทางวิชาชีพมาแก้ปัญหาตามความต้องการของชุมชนได้ |
ผลกระทบ (Impact) | ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น | บัณฑิตมีคุณภาพเป็นไปตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย |