ปลูกป่าเศรษฐกิจพิชิตหมอกควันที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
ข้อมูลโครงการ
ชื่อนวัตกรรม | ปลูกป่าเศรษฐกิจพิชิตหมอกควันที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ |
สถาบันอุดมศึกษาหลัก | |
หน่วยงานหลัก | ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
หน่วยงานร่วม | องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ศึก |
ชื่อชุมชน | บ้านปางอุ๋ง หมู่ที่ 1 |
ชื่อผู้รับผิดชอบ | นายชวลิต กอสัมพันธ์ |
ที่อยู่ผู้รับผิดชอบ | ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 โทร. 053 222 014 |
ชื่อผู้ร่วมโครงการ/สาขา | นายวราพงษ์ บุญมา สาขาเกษตรศาสตร์ |
การติดต่อ | chawalit.k@cmu.ac.th โทร. 081 9619812 |
ปี พ.ศ. | 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2562 - 30 พ.ค. 2563 |
งบประมาณ | 452,000.00 บาท |
พื้นที่ดำเนินงาน
จังหวัด | อำเภอ | ตำบล | ลักษณะพื้นที่ | |
---|---|---|---|---|
เชียงใหม่ | แม่แจ่ม | แม่ศึก | place directions |
รายละเอียดชุมชน
ข้อมูลพื้นฐาน
ตำบลแม่ศึก อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นประมาณ 678.46 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาประมาณร้อยละ 90 % พื้นที่ราบประมาณร้อยละ 10 % ประกอบด้วย 17 หมู่บ้าน มีประชากรประมาณ 13,000 คน แต่เดิมเกษตรกรในพื้นที่นี้ทำการเกษตรแบบหมุนเวียนการใช้พื้นที่หรือไร่หมุนเวียนเป็นหลัก แต่เมื่อประมาณ 10 ปี ที่ผ่านมามีการนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาปลูกในพื้นที่ และพื้นที่เกษตรแบบหมุนเวียนถูกแทนที่ด้วยไร่ข้าวโพดซึ่งไม่มีการหมุนเวียนการใช้พื้นที่ หรือมีการปลูกทุกปี การขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลียงสัตว์เป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียพื้นที่ป่า และการเสื่อมสภาพของทรัพยากรโดยรวมข้อมูลศักยภาพ/ทรัพยากร
เกษตรกรได้เปลี่ยนระบบการเพาะปลูกจากวิถีการเกษตรแบบดั้งเดิมที่มีความหลากหลาย มีการใช้พื้นที่และทรัพยากรน้อยการผลิตอื่น ๆ น้อย ไปเป็นระบบการเกษตรแบบเชิงเดี่ยว คือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่มีการใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ และมีการขยายพื้นที่ออกไปทุกปี ในกระบวนการปลูกและผลิตในระบบนี้ มีการถางแล้วเผาในรอบปี ยิ่งทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของทรัพยากรโดยรวม (Land degradation) นอกจากนั้นพบว่าเกิดการชะล้างหน้าดินอย่างรุนแรง มีการสูญเสียของพืชพรรณทั้งในธรรมชาติและพืชปลูกในระบบเกษตรข้อมูลประเด็นปัญหา
การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินจากระบบหมุนเวียนการใช้พื้นที่มาเป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อการค้า ทำให้ป่าไม้ซึ่งแต่เดิมเป็นระยะพักแปลง (Fallow phase หรือป่าเหล่า) การหายไปของป่าเหล่า ทำให้ความหลากหลายของทั้งระบบหายไป ทั้งความหลากหลายของพรรณพืช (Vegetation) ความหลากหลายของวิถีชีวิตและระบบการเกษตร (Agrodiversity) ความหลากหลายของชนิดและพันธุ์พืช (Species diversity and gen diversity) การเปิดพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เมื่อถึงฤดูที่ต้องมีการถางแล้วเผา จะทำให้เกิดฝุ่นควัน (Haze) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนหมู่มากข้อมูลความต้องการเชิงพื้นที่
มีเกษตรกรจำนวนหนึ่งต้องการเปลี่ยนระบบการผลิตของพวกเขาจากพืชล้มลุกเชิงเดี่ยว ไปเป็นสวนไม้ผลยืนต้นที่ในระบบมีความหลากหลายของพืช การจัดการที่หลากหลายและมีผลผลิตออกจากพื้นที่หลายชนิดในรอบปี โดยแปลงเกษตรแบบนี้จะไม่มีการถางแล้วเผาในรอบปีประเด็นปัญหาหลัก
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
องค์ความรู้หรือนวัตกรรมที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน
ประเภทนวัตกรรม
นวัตกรรมชุมชน , นวัตกรรมเกษตร , นวัตกรรมแก้จน , นวัตกรรมสังคม